คำนวณฟิลด์
เครื่องมือนี้จะทำงานกับชั้นข้อมูลอินพุตเพื่อคำนวณค่าสำหรับฟิลด์ใหม่หรือฟิลด์ที่มีอยู่ สร้างสมการอาเคดเพื่อคำนวณค่าที่จะใช้แสดงฟีเจอร์ หากข้อมูลของคุณเปิดใช้เวลาแล้ว และเป็นเวลาประเภททันที คุณอาจเลือกสร้างสมการที่ติดตามได้
ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณต้องการแก้ไขฟิลด์ที่มีอยู่ที่ชื่อ TotalSales คุณต้องการให้ฟิลด์นี้แทนที่ด้วยผลรวมของยอดขายในปี 2016 และ 2017 เมื่อใช้ฟิลด์เหล่านั้นในสมการ คุณจะสามารถคำนวณค่าของฟิลด์ในรูปของ
$feature["Sales2016"] + $feature["Sales2017"]
หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง สมมุติว่าคุณมีการวัดจีพีเอสที่บันทึกสถานที่ เวลา รหัสรถประจำทาง และความเร็วของรถประจำทางในเมือง เราต้องการสร้างฟิลด์ใหม่ที่ชื่อ SpeedFrom3 ที่จะถัวเฉลี่ยความเร็วของการวัดจีพีเอสที่บันทึกไว้ 3 รายการล่าสุดสำหรับแต่ละฟีเจอร์ สำหรับการคำนวณนี้ เราจะใช้การคำนวณการติดตาม โดยการติดตามคือรถประจำทางที่แสดงด้วยรหัสรถประจำทาง การคำนวณจะตรวจสอบความเร็วเฉลี่ยของช่วงขั้นเวลา 3 ช่วงก่อนหน้า และช่วงขั้นเวลาปัจจุบันคือ
average($track.field["speed"].history(-4))
เลือกชั้นข้อมูลเพื่อคำนวณค่าฟิลด์สำหรับ
จุด เส้น พื้นที่หรือตารางที่จะมีค่าฟิลด์ที่คำนวณไว้
นอกเหนือจากการเลือกชั้นข้อมูลจากแผนที่คุณสามารถเลือก เลือกชั้นข้อมูลการวิเคราะห์ ที่ด้านล่างของรายการแบบเลื่อนลงเพื่อเรียกดูเนื้อหาของคุณสำหรับชุดข้อมูลขนาดใหญ่หรือชั้นฟีเจอร์
คำนวณค่าฟิลด์สำหรับฟิลด์
ฟิลด์ใหม่หรือฟิลด์ที่มีอยู่ที่จะมีค่าที่คำนวณไว้ และประเภทข้อมูลของฟิลด์นั้น หากคุณกำลังคำนวณค่าของฟิลด์ที่มีอยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องจับคู่ประเภทข้อมูล
สร้างนิพจน์เพื่อคำนวณค่าฟิลด์
เพิ่มสมการโดยใช้ตัวสร้างสมการเพื่อคำนวณค่าของฟิลด์
ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าเราต้องการเพิ่มค่าของฟิลด์ที่ชื่อ income และ bonus ซึ่งเราทำได้ด้วยการเพิ่มสมการ $feature["income"] + $feature["bonus"]
นิพจน์มีความสำคัญต่อการติดตาม
ระบุว่าสมการของคุณเป็นการติดตามหรือไม่ สมการการติดตามจะรวมการจัดรูปแบบ อย่างเช่น
$track.field["fieldname"].history(...)สมการการติดตามต้องใช้ฟิลด์เพื่อระบุถึงการติดตามแต่ละรายการ การติดตามอาจประกอบด้วยจุด เส้น พื้นที่หรือตาราง และกำหนดเพียงแค่ว่าให้อินพุตมีตัวระบุการติดตาม และข้อมูลเป็นแบบเปิดใช้เวลาของประเภทเวลาทันที
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยช่วงเวลา
ระบุว่าคุณต้องการคำนวณค่าสำหรับแทร็กของคุณโดยใช้ช่วงเวลาซึ่งจะจัดกลุ่มอินพุตของคุณสำหรับการวิเคราะห์หรือไม่ หากคุณใช้ช่วงเวลา คุณต้องกำหนดช่วงเวลาที่ต้องการใช้ และกำหนดเวลาอ้างอิงเป็นตัวเลือก หากคุณไม่กำหนดเวลาอ้างอิง จะมีการใช้วันที่ 1 มกราคม 1970
ตัวอย่างเช่น หากคุณตั้งค่าขอบเขตเวลาเป็น 1 วันโดยเริ่มต้นเวลา 9:00 น. วันที่ 1 มกราคม 1990 จากนั้นแต่ละแทร็กจะถูกตัดที่ 9:00 น. ในทุกวันและจะมีการวิเคราะห์ภายในเซกเมนต์นั้น
การใช้ช่วงเวลาคือวิธีที่รวดเร็วในการเร่งรัดเวลาการประมวลผล เพราะวิธีนี้จะสร้างแทร็กที่ขนาดเล็กกว่าอย่างรวดเร็วสำหรับทำการวิเคราะห์ หากการแยกตามช่วงเวลาที่เกิดซ้ำมีความเหมาะสมกับการวิเคราะห์ของคุณ ขอแนะนำให้ใช้สำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่
ชื่อของชั้นข้อมูลผลลัพธ์
ชื่อของชั้นข้อมูลที่จะถูกสร้างขึ้น หากคุณกำลังเขียนถึง ArcGIS Data Store, ผลลัพธ์ ของคุณจะถูกบันทึกเก็บในMy Content และเพิ่มเข้าในแผนที่ หากคุณกำลังเขียนไปยังไฟล์แชร์ข้อมูลขนาดใหญ่, ผลลัพธ์ ของคุณจะถูกเก็บในไฟล์แชร์ข้อมูลใหญ่นั้น และเพิ่้มใน ข้อความ ที่แสดง ซึ่งจะ ไม่ถูกเพิ่มเข้าในแผนที่ ชื่อเริ่มต้นจะขึ้นอยู่กับชื่อเครื่องมือและชื่อชั้นข้อมูลอินพุต ถ้าชั้นข้อมูลมีอยู่แล้วเครื่องมือจะล้มเหลว
เมื่อคุณเขียน ArcGIS Data Store (แหล่งข้อมูลใหญ่สเปชิโอเทมโพรัลหรือเชิงสัมพันธ์) ที่ใช้เพื่อ บันทึกผลลัพธ์ในช่องแบบเลื่อนลง , คุณสามารถระบุชื่อของโฟลเดอร์ใน My Content ซึ่งจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์นี้